ราคาหุ้น PTT ขณะนี้ถือว่ามีอัพไซด์เหลือน้อยเต็มที ขณะที่นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่าผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังยังไม่โดดเด่นนัก แม้กลับมารายงานกำไรสุทธิในช่วง Q2/63 ได้สำเร็จ หลัง Q1/63 พลิกขาดทุนครั้งแรกในรอบ 19 ปี ช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีอะไรให้ลุ้นอีกไหม?...ต้องติดตาม!
*** ราคาหุ้นทรงตัวกรอบแคบ รับงบ Q2/63 พลิกกำไร
ราคาหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ทรงตัวอยู่ในกรอบแคบๆมาเป็นเวลานานแล้ว โดยวันทำการล่าสุด (11 ส.ค.63) ราคาปิดซื้อขายด้วยราคา 37.50 บาท ลดลงเพียง 0.25 บาท หรือ -0.66% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 128.5% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุหลักคงเป็นเพราะนักลงทุนคาดเดางบ Q2/63 ได้ว่าแม้จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ แต่ยังคงอ่อนแอนั่นเอง
*** ผลงานดำเนินงานยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ
PTT นับว่าเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแกร่งอันดับต้นๆของตลาดหุ้นไทย จนทำให้นักลงทุนแทบไม่มีความคิดอยู่ในหัวว่า PTT จะรายงานขาดทุนสุทธิ แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในไตรมาส 1/63 เมื่อ PTT รายงานขาดทุนสุทธิ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 19 ปี โดยสาเหตุหลักเกิดจากการขาดทุนสต็อกน้ำมัน
แต่ไตรมาส 2/63 หุ้นขวัญใจมหาชนอย่าง PTT ก็พลิกกลับมารายงานกำไรสุทธิ 1.2 หมื่นล้านบาท ให้นักลงทุนชื่นใจได้สำเร็จ แต่หากพิจารณาในรายละเอียดก็ถือว่ายังคงห่างไกลกับภาวะปกติอยู่ดี โดยบริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า PTT พลิกกลับมามีกำไรได้ก็จริง แต่กำไรสุทธิที่รายงานมานั้น ยังคงลดลง 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักเกิดจากการธุรกิจโรงแยกก๊าซได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณาธุรกิจหลักของ PTT ที่เป็นโรงแยกก๊าซนั้น กำไรก่อนดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ลดลง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักเกิดจากปริมาณขายลดลง ประกอบกับราคาขายลดลงทั้งจากธุรกิจปลายน้ำอย่างปิโตรเคมีที่เปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบ Naphtha และโรงแยกก๊าซมีการหยุดซ่อมบำรุง
ขณะที่ผลประกอบการธุรกิจจัดหาก๊าซก็ลดลงเช่นกัน จากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมลดลง ประกอบกับการปิดโรงแรมและห้างสรรพสินค้า ทำให้ปริมาณการใช้ก๊าซของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) ลดลงด้วยเช่นกัน
*** ครึ่งปีหลังยังต้องลุ้นเหนื่อย
แม้ว่า PTT จะพลิกกลับมารายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2/63 ได้แล้ว แต่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กลับมองว่าผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/63 ของ PTT ยังไม่โดดเด่นนัก โดยคาดว่าธุรกิจโรงกลั่นจะเป็นตัวถ่วงผลดำเนินงาน เนื่องจากต้นทุนน้ำมันดิบ (Crude premium)สูงขึ้น รวมทั้งอุปสงค์ก๊าซที่ยังอ่อนแอตามความต้องการใช้ไฟฟ้าจากภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม
แต่ยังมีปัจจัยบวกสนับสนุนจากอัตรากำไรของธุรกิจก๊าซที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ และต้นทุนก๊าซที่ลดลง โดยผู้บริหาร PTT ประเมินว่าต้นทุนก๊าซในช่วงไตรมาส 3/63 จะลดลง 12% จากไตรมาสก่อน
ขณะที่ บล.ทิสโก้ จำกัด ให้ความเห็นเกี่ยวกับอัตรากำไรของธุรกิจก๊าซที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 3/63 ว่าทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากคาดว่าอัตราการใช้ก๊าซ และกำลังการผลิตยังอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ PTT จะมีการปิดปรับปรุงโรงแยกก๊าซเป็นเวลา 45 วัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 3/63 ยังคงอ่อนแอ
*** ราคาหุ้นอาจพุ่ง หลังดัน PTTOR เข้าตลท.
แม้แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังอาจยังไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แต่ยังมีปัจจัยหนุนดันราคาหุ้น PTT พุ่งได้ โดย บล.กรุงศรี ระบุว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาไฟล์ลิ่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าขั้นตอนการอนุมัติจะไม่ช้าไปกว่าวันที่ 14 ก.ย.63 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้ราคาหุ้น PTT ปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น
เช่นเดียวกับ บล.เอเชีย เวลท์ ที่ระบุว่า หุ้น PTT ยังมีความน่าสนใจจากการนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลท.
*** โบรกฯ รุมหั่นเป้ากำไรปี 63
ขณะเดียวกัน จากแนวโน้มผลการดำเนินงานของ PTT ที่ยังไม่เห็นความโดดเด่นมากนักในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักทยอยปรับเป้ากำไรสุทธิปี 63 ลง โดย บล.ทรีนีตี้ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ของ PTT ลง 59% เหลือ 3 หมื่นล้านบาท (เดิมคาด 5.8 หมื่นล้านบาท) จากผลกระทบขาดทุนสต็อกน้ำมันใน 2 ไตรมาสที่ผ่านมาของกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี
นอกจากนี้ยังปรับลด EBITDA ของกลุ่มธุรกิจก๊าซของ PTT ลง 20% หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
เช่นเดียวกับ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ที่ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 ของ PTT เหลือ 5.16 หมื่นล้านบาท ลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (เดิมคาด 8.64 หมื่นล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) หลังลดสมมติฐานให้มีความอนุรักษ์นิยมมากขึ้น
*** โบรกฯส่วนใหญ่แนะนำ"ถือ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้คำแนะนำเพียง"ถือ"เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของ PTT จะมีแนวโน้มฟื้นตัวเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งยังไม่กลับสู่ภาวะปกติในปี 63
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
กรุงศรี |
ถือ |
33 |
ทรีนีตี้ |
ถือ |
34 |
ทิสโก้ |
ถือ |
37 |
หยวนต้า |
เก็งกำไร |
40 |
ดีบีเอส วิคเคอร์ส |
ซื้อ |
43 |
ราคาเฉลี่ย |
37.4 |
ต้องบอกว่าราคาหุ้น PTT ที่ซื้อขายขณะนี้ใกล้ถึงราคาเป้าหมายเฉลี่ยของนักวิเคราะห์เต็มที ประกอบกับแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังที่ยังคงไม่โดดเด่น จากการประเมินของนักวิเคราะห์หลายสำนัก ยิ่งทำให้หุ้น PTT ที่เปรียบเสมือนหุ้นขวัญใจมหาชนดูไม่น่าสนใจเท่าที่ควร
แต่ถ้านักลงทุนมั่นใจว่าหาก PTT นำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลท. ได้สำเร็จจะทำให้ราคาหุ้น PTT พุ่งขึ้นในช่วงสั้นตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ดังนั้นการเข้าลงทุนในช่วงนี้เพื่อเก็งกำไรจากปัจจัยดังกล่าวอาจเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนสำหรับนักลงทุนได้เช่นกัน...
0 Response to "PTT ราคาอืด! ..ปีนี้ไม่เหลืออะไรให้ลุ้น-อัพไซด์จำกัด - efinanceThai"
Post a Comment