"ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม" มั่นใจยอดขายปิโตรเลียมปี 64 แตะ 3.8 แสนบาร์เรลต่อวัน จากปีนี้ที่ 3.5 แสนบาร์เรลต่อวัน รับดีมานด์ฟื้น พร้อมเร่งสรุปการลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในเมียนมา กำลังผลิต 600MW ภายใน 1-2 เดือนนี้ จ่อปิดดีลซื้อแหล่งปิโตรเลียมอีก 1 แห่งในปีนี้
*** ปี 64 ยอดขายโตแตะ 3.8 แสนบาร์เรล/วัน
นาย พงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ปี 64 บริษัทคาดว่าจะมีปริมาณขายปิโตรเลียมที่ระดับ 380,000 บาร์เรลต่อวัน จากในปีนี้คาดมียอดขาย 350,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นผลจากคาดการณ์ของกลุ่ม ปตท.ที่ประเมินว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีปริมาณการเรียกรับก๊าซที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันคาดว่าราคาขายจะเฉลี่ยอยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
*** ลุ้นดีลโรงไฟฟ้าเมียนมา-ซื้อแหล่งปิโตรเลียม
นายพงศธร กล่าวอีกว่าในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะมีความชัดเจนและสรุปการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติที่เมียนมา ขนาดกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ซึ่งเมียนมามีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อพัฒนาประเทศ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งก่อสร้าง แต่ต้องรอดูนโยบายการลงทุนที่ชัดเจนของรัฐบาลเมียนมา
นอกจากนี้ปีนี้คาดจะสรุปแผนการซื้อกิจการแหล่งปิโตรเลียม 1 แห่งในกลุ่มประเทศที่บริษัทได้เคยเข้าไปลงทุน และโฟกัสการลงทุน เช่น เมียนมา มาเลเซีย โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไทย ขนาดกำลังการผลิตของแหล่งปิโตรเลียมดังกล่าวจะมีขนาดใหญ่กว่าแหล่ง Partex
*** ลดเงินลงทุนเจาะสำรวจ 50%
ในปี 63 บริษัทได้ปรับลดวงเงินการขุดเจาะสำรวจเหลือเพียง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่คาดจะใช้เงิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากได้ปรับลดจำนวนหลุมที่จะเจาะสำรวจลง 50% จากปัญหาการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการเดินทางเข้าประเทศ
บริษัทมีแผนที่จะขายเงินลงทุนในโครงการแหล่งปิโตรเลียม Cash Maple ที่ประเทศออสเตรเลีย หลังจากที่ประเมินว่าโครงการดังกล่าวจะไม่คุ้มค่าการกับลงทุน หากราคาน้ำมันดิบยังคงทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบัน เพราะมองว่าราคาน้ำมันดิบจะต้องมีราคาที่มากกว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจึงจะคุ้มค่าการลงทุน
*** วางเป้าปี 73 การลงทุนธุรกิจใหม่ สร้างกำไร 20%
บริษัทตั้งเป้าในปี 10 ปีข้างหน้า หรือปี 73 สัดส่วนกำไรสุทธิจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ จะอยู่ที่ 20% ของกำไรสุทธิรวม เป็นผลจากการเข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ หรือโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ประกอบกับการต่อยอดและขยายธุรกิจ บริษัท A.I & Robotics Venture (ARV) ได้แก่ การตรวจสอบและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ใต้ทะเล การเกษตร การแพทย์ และการใช้อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ในการตรวจสอบทางเทคนิค
โดยบริษัทมีแผนจะนำ บริษัท A.I & Robotics Venture (ARV) เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังธุรกิจมีกำไรแล้ว
นายพงศธร กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริษัท วันที่ 27 ส.ค.นี้ มีวาระพิจารณาต่ออายุวาระตำแหน่งของตนเองที่จะเกษียณอายุในเดือน ก.ย. นี้ ออกไปอีก 1 ปี แต่โดยส่วนตนแล้วไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้รับการต่อายุการทำงานหรือไม่ แต่ก็มีความพร้อมในการทำงานต่อไป หากได้รับโอกาสดังกล่าว
*** โบรกฯคาด Q3/63 กำไรจากธุรกิจหลักฟื้น
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ คาดว่าไตรมาส 3/63 กำไรจากธุรกิจหลักของ PTTEP จะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบและปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้นทั้งคู่ โดยราคาน้ำมันดิบดูไบวิ่งขึ้นมาแล้วถึง 45% QoQ จาก US$31/bbl ในไตรมาส 2/63 มาอยู่ที่ประมาณ US$45/bbl ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของ PTTEP สูงขึ้น ถึงแม้บริษัทจะคาดว่าราคาขายก๊าซจะลดลง 4% QoQ เหลือ US$6.1/mmbtu ก็ตาม
นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าปริมาณยอดขายในไตรมาส 3/63 จะเพิ่มขึ้น 4% QoQ เป็น 340KBOED เนื่องจากอุปสงค์การใช้ก๊าซในประเทศเพิ่มขึ้นจากการที่สถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลงไป ทั้งนี้เราคาดว่าราคาขายก๊าซจะลดลงอย่างมากเหลือแค่ประมาณ US$5/mmbtu ในไตรมาส 4/63 เนื่องจากจะมีการปรับราคาขายก๊าซจากอ่าวไทยรอบใหญ่ในไตรมาสที่สี่ของทุกปี
*** ลุ้นโอกาสดีซื้อสินทรัพย์ในธุรกิจ E&P
บล.เคจีไอ ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบให้ผู้ผลิตปิโตรเลียมหลายรายประสบภาวะวิกฤติทางการเงิน ทำให้ PTTEP มองเห็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อกิจการในธุรกิจ E&P ในประเทศทที่บริษัทคุ้นเคยดีอยู่แล้วอย่างเช่น ประเทศไทย, เมียนมา มาเลเซีย UAE และ Oman เนื่องจากบริษัทมีเงินสดในมือมากถึงประมาณ 3.1 พันล้านเหรียญเมื่อสิ้นงวดไตรมาส 2/63
ทั้งนี้บริษัทมุ่งเน้นที่จะซื้อสินทรัพย์ในธุรกิจก๊าซเพื่อเพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์ของธุรกิจก๊าซในพอร์ตของ PTTEP จาก 70% เป็น 80% นอกจากนี้ บริษัทก็ยังจะมุ่งขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ อย่างเช่น Gas-to-Power และ AI & Robotics โดยตั้งเป้าจะทำรายได้จากธุรกิจใหม่ให้ได้ประมาณ 20%
ยังคงคำแนะนำถือ PTTEP และให้ราคาเป้าหมาย DCF 1H64 ที่ 105.00 บาท อิงจาก WACC ที่ 11% และ terminal growth ที่ 1%
August 27, 2020 at 07:06AM
https://ift.tt/31v0ftN
ข่าวนี้ที่ 1 : PTTEP ลั่นยอดขายปีหน้า 3.8 แสนบาร์เรล/วัน จ่อซื้อแหล่งปิโตรฯ - efinanceThai
https://ift.tt/3gXnEKd
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ข่าวนี้ที่ 1 : PTTEP ลั่นยอดขายปีหน้า 3.8 แสนบาร์เรล/วัน จ่อซื้อแหล่งปิโตรฯ - efinanceThai"
Post a Comment