หุ้นนิคมอุตสาหกรรมหืดจับ รับโควิด-19 ทำรัฐบาลตัดสินใจปิดประเทศยืดเยื้อกว่าครึ่งปี WHA โอดเตรียมปรับลดเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ลงอีก 200 - 300 ไร่ แม้หั่นเป้ามาตลอดทาง พร้อมปรับลดงบลงทุนลงเหลือ 5 พันลบ. ขณะที่ AMATAV รับรายได้-กำไรปีนี้ร่วงอีกแม้ฐานปีก่อนต่ำ ส่วน AMATA ยังคงเป้ายอดขาย 950 ไร่ เชื่อรัฐเปิดประเทศเร็วๆนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์มองปิดประเทศยืดเยื้อ ทำเศรษฐกิจช้ำถึงปีหน้า
*** WHA โอด! อาจต้องหั่นยอดขายอีก 300 ไร่ หากรัฐปิดประเทศต่อ
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ออกมายอมรับว่า หากรัฐบาลยังตัดสินใจไม่เปิดให้นักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศภายในอีก 2 เดือนข้างหน้า จะมีผลกระทบทำให้ยอดขายที่ดินของบริษัทลดลงจากเป้าหมาย 200-300 ไร่ จากเป้า 900 ไร่
ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ปรับลดเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ลงมาแล้วหนึ่งครั้งจากเดิมที่คาดจะมียอดขายที่ดิน 1,400 ไร่ และในช่วงครึ่งแรกของปีนี้บริษัททำยอดขายไปได้เพียง 109 ไร่ และมีหนังสือแสดงเจตจำนง(LOI)จากลูกค้าจำนวน 385 ไร่ ซึ่งคาดจะลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายได้ภายในปีนี้
*** รายได้ทั้งปีอาจเหลือแค่ทรงตัว
ปี 63 ที่คาดรายได้จะเฉลี่ยใกล้เคียงกับปี 62 ที่มีรายได้ 13,385 ล้านบาท และคาดจะมียอดขายที่ดินเฉลี่ย 1,000 ไร่ สำหรับเป้าหมายธุรกิจในปี 64 คาดรายได้รวมจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก เมื่อเทียบกับ
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทต้องปรับลดงบลงทุนในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 9,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดีงบลงทุนรวมในปี 63 - 67 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท
*** งัดแผนขายสินทรัพย์เข้ากอง 4.6 พันลบ. พ.ย.นี้ บุ๊กเป็นกำไร 30%
ในเดือนพ.ย.นี้ บริษัทรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) และทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) มูลค่ารวมกว่า 4,600 ล้านบาท โดยสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นศูนย์โลจิสติกส์ขายพื้นที่คลังสินค้า จำนวน 130,000 ตร.ม.เข้ากองทรัสต์ WHART และในส่วนของโรงงาน RBF และคลังสินค้า RBW จำนวน 50,000 ตร.ม.เข้ากองทรัสต์ HREIT
นายณัฐพรรษ ตันบุณเอก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน WHA ระบุว่า การขายสินทรัพย์ดังกล่าวจะบันทึกเป็นกำไรเข้ามาภายในไตรมาส 4/63 ราว 30% ของยอดขายทั้งหมด
*** เวียดนามก็ไม่รอด AMATAV กำไรปีนี้วูบ
นายณัทธร กิจสำเร็จ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยว่า ภาพรวมกำไรจากการดำเนินงานปีนี้ มีโอกาสจะปรับตัวลดลงจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีภาระดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น ขณะที่รายได้ได้ปีนี้คาดว่าจะปรับตัวลดลงน้อยกว่าปีก่อนที่ทำได้ 709.80 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบโควิด-19 ส่งผลให้กลุ่มลูกค้ามีปัญหาเรื่องการเดินทาง และบางกลุ่มอาจชะลอแผนการลงทุนโดยรอดูสถานการณ์โควิดทั่วโลกที่ชัดเจนมากกว่านี้ ทำให้ยอดขายที่ดินหายไป ซึ่งรายได้ที่เหลือของบริษัทจะมาจากรายได้ประจำ(Recurring Income) จากค่าเช่า บริการ สาธารณูปโภคซึ่งมีเพิ่มมากกว่าเดิม
*** ลุ้นยอดขาย 20 เฮกตาร์ - รายได้จากการขายหุ้นช่วยหนุน
อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทยังคาดหวังยอดขาย(Presale) ในอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ฮาลอง ประมาณ 20 เฮกตาร์ รวมถึงปีนี้จะรับรู้รายได้ประมาณ 1 ใน 3 จากการขายหุ้นของ Amata Service City Long Thanh 1 Company Limited (ASCLT 1) และASCLT 2 ในสัดส่วน 49% ให้แก่ Nova Rivergate Company Limited และ Nha Rong Investment & Commercial Joint Stock Company รวมเป็นเงิน 2,156 ล้านบาท และบริษัทคาดหวังรายได้จากการขายโรงงานสำเร็จรูป (RBF) จากลูกค้าที่เช่าอยู่เดิม
"ปีนี้ยอมรับว่ายอดขายที่ดินหายไปจากโควิด-19 แต่เราหวังว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นคงเห็นแนวโน้มยอดขายกลับมา เพราะเวียดนามยังมีแนวโน้มการเติบโต โดยปีหน้าคาดหวังขายได้ 30-40 เฮกตาร์ "นายณัทธร กล่าว
*** AMATA ยังคงเป้ายอดขาย 950 ไร่ เชื่อรัฐเปิดประเทศครึ่งหลังนี้
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน(Opportunity Day) ว่าสิ้นสุดไตรมาส 2/63 บริษัทมียอดขายที่ดินรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 2,157 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้โอนได้ในปีนี้ประมาณ 50-60%
ด้านยอดขายที่ดินใหม่บริษัทยังคงวางเป้าหมายปีนี้ไว้ที่ 950 ไร่ โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือปีนี้ภาครัฐบาลจะอนุญาตให้กลุ่มนักลงทุนเข้ามาซื้อที่ดินได้ นอกจากนี้ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังที่เป็นไฮซีซั่นจะดีกว่าครึ่งปีแรกเป็นปัจจัยช่วยหนุน ทั้งนี้ครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายที่ดินแล้ว 116 ไร่
อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีรายได้ประจำ(Recurring Income) จากบริการ ค่าเช่า สาธารณูปโภค เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปริมาณการใช้งานของโรงงาน โดยเฉพาะการขายน้ำซึ่งปัจจุบันกลับมาในระดับ 60-70% ใกล้เคียงระดับปกติ หลังจากช่วงครึ่งปีแรกชะลอตัว
*** KKP รับปิดประเทศทำจีดีพีปีหน้า เหลือโตแค่ 3.4%
กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ระบุว่า ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีสำหรับปี 64 จาก 5.2% เหลือ 3.4% ปัจจัยสำคัญที่สุด คือ การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าเดิมจากที่การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเกิดขึ้นจริงได้ยาก
ในขณะที่ยังคงประมาณการเศรษฐกิจที่ -9% สำหรับปี 63 สะท้อนถึงการที่เศรษฐกิจในปีหน้ายังคงห่างไกลจากการกลับเข้าสู่ระดับของกิจกรรมเศรษฐกิจก่อนโควิด19 ทำให้เศรษฐกิจไทยอาจต้องใช้เวลานานถึงประมาณ 3-4 ปีกว่าที่จะกลับเข้าสู่ระดับปกติ
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่าการปิดประเทศ และการใช้จ่ายภาครัฐบาลที่มีแนวโน้มล่าช้าหรือชะลอการลงทุนในโครงการใหญ่จะมีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนหรือแม้แต่การย้ายฐานการลงทุนมาไทย อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัว จะมีผลให้เศรษฐกิจไทยเสี่ยงโตช้าในปีหน้า
โดยเราปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ขึ้นจาก -8.9%เป็น -7.5%และให้มุมมองเศรษฐกิจปีหน้าว่าจะขยายตัว 2.8% นอกจากนี้ เรามองว่าทางคณะกรรมการนโยบายการเงินจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปีตลอดปีหน้า
September 23, 2020 at 07:27AM
https://ift.tt/3mJv1HY
ข่าวนี้ที่ 1 : หุ้นนิคมฯหืดจับ! ยอดขายที่ดินวูบ รัฐปิดประเทศยืดเยื้อ - efinanceThai
https://ift.tt/3gXnEKd
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ข่าวนี้ที่ 1 : หุ้นนิคมฯหืดจับ! ยอดขายที่ดินวูบ รัฐปิดประเทศยืดเยื้อ - efinanceThai"
Post a Comment