LPN รายงานงบ 2 ไตรมาสแรกของปี 63 มีกำไรลดลงทุกไตรมาส รับยอดเปิดโครงการใหม่น้อยลงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ครึ่งปีหลัง LPN ประกาศเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่าจะเป็นช่วงฟื้นตัว แต่จะราบรื่นอย่างที่คิดหรือไม่?...ต้องติดตาม!
*** ราคาหุ้น LPN ปิดบวกสวนทางดัชนีหุ้นไทย
ราคาหุ้น บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันทำการล่าสุด (7 ส.ค.63) ที่ราคา 5.15 บาท ก่อนปิดซื้อขายด้วยราคา 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.99% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 77% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น LPN ปิดบวกสวนทางดัชนีหุ้นไทย (Set Index) คงหนีไม่พ้นกรณีผู้บริหาร LPN ออกมาประกาศความชัดเจนว่า ช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก ที่ต้องชะลอหลายโครงการจากการแพร่ระบาดโควิด-19
***โบรกฯ มองครึ่งปีหลังเริ่มเห็นแววฟื้น
แม้ว่า LPN จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/63 มีกำไรสุทธิ 153.5 ล้านบาท ลดลง 13.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 176.73 ล้านบาท ซึ่งกำไรในช่วงครึ่งปีแรกลดลงทุกไตรมาส สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัย ของ LPN ที่คาดการณ์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 63 จะหดตัว 25 - 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กรุงศรี กลับมีมุมมองว่าผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของ LPN จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และแนวโน้มกำไรสุทธิจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/63 เป็นต้นไป โดยมีอานิสงส์จากคอนโดมิเนียมพร้อมโอน อย่างโครงการ “Lumpini Ville Sukhumvit 101/1 - Punnawithi” มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ซึ่งมียอดจองแล้ว 34%
สอดคล้องกับ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการพุดคุยกับผู้บริหาร LPN มองอุปสงค์ที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังเป็นเชิงบวกมากขึ้น เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่มองลบเป็นอย่างมาก เนื่องจากยอดการเยี่ยมชมโครงการฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ
ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่ากำไรสุทธิของ LPN ในช่วงไตรมาส 3/63 ยังคงทรงตัวจากไตรมาส 2/63 แต่ก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเล็กน้อย จากฐานต่ำในช่วงไตรมาส 3/63 ก่อนจะเติบโตโดดเด่นในช่วงไตรมาส 4/63
*** ความหวังสูงสุดรออยู่ที่ Q4/63 มีอะไรบ้าง?
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ LPN ระบุว่า ในช่วงไตรมาส 4/63 บริษัทจะเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เลื่อนมาจากช่วงไตรมาส 2/63 จากการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยคาดว่าจะส่งผลดีกับผลประกอบการในช่วงดังกล่าว
นอกจากนี้ LPN ยังคาดว่าจะสามารถเจรจาขายอาคารสำนักงานลุมพินีทาวเวอร์ วิภาวดี - จตุจักร มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ได้ในช่วงไตรมาส 4/63 ซึ่งจะทำให้ LPN บันทึกเป็นกำไรพิเศษทันที
โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายอาคารสำนักงานลุมพินีทาวเวอร์ วิภาวดี - จตุจักร ไว้ว่า จะทำให้ราคาหุ้น LPN ปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น หาก LPN สามารถบรรลุข้อตกลงขายอาคารสำนักงานดังกล่าวได้สำเร็จ
ขณะที่ บล.กรุงศรี ระบุว่า นอกจากการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 3 โครงการแล้ว LPN ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมโอนในไตรมาส 4/63 อีก 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ Lumpini Park Boromarajonani-Sirindhorn มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งมียอดจองแล้ว 35% และโครงการ Lumpini Ville Pattanakarn - Srinakarin มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งมียอดจองแล้ว 63%
*** ระวัง Q4/63 อาจไม่ราบรื่นอย่างที่คิด
แม้ยอดขายเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ บล.กรุงศรี กลับมีความกังวลว่า กลุ่มลูกค้าหลักของ LPN ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงน้อย ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ยังคงได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ล่าช้า
นอกจากนี้ธนาคารพาณิชย์ยังมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 40-50% ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาอีกด้วย สะท้องถึงความเสี่ยงในการโอนช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับ บล.เอเชีย เวลท์ ที่ระบุว่า ช่วงครึ่งหลังของปี 63 LPN ยังมีความเสี่ยงจากการรับรู้ Backlog ของกลุ่มคอนโดมิเนียม กว่า 2,000 ล้านบาท หลังอัตราปฏิเสธสินเชื่อปรับตัวสูงขึ้น จากธนาคารที่มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ประกอบกับการแข่งขันของอุตสาหกรรมยังดุเดือด โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นของ LPN ลดลงต่ำกว่าในช่วงครึ่งแรกของปี ซึ่งทำได้ในระดับ 31.2%
ขณะที่ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุเพิ่มเติมว่า จากการพูดคุยกับผู้บริหาร LPN ยอมรับว่า มีความกังวลในประเด็นการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารที่ยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีความกังวลว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะมีการแข่งขันด้านราคาดุเดือดมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จึงทำให้ปรับลดเป้าหมายยอดขายปีนี้ลงมาอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท หรือลดลง 30% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท
*** โบรกฯ คาดกำไรปี 63 วูบ ตามยอดโอนคอนโดฯใหม่ลดลง
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่ากำไรสุทธิปี 63 ของ LPN จะลดลงจากปีก่อน เนื่องจากมีคอนโดมิเนียมใหม่เริ่มโอนลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสำคัญกดดันกำไรสุทธิของ LPN ในปีนี้ เฉลี่ยลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
บล. |
กำไรสุทธิ (ลบ.) |
ลดลง YoY(%) |
เคทีบี |
788 |
37.26 |
โนมูระ พัฒนสิน |
800 |
36.30 |
ทรีนีตี้ |
864 |
31.21 |
หยวนต้า |
865 |
31.13 |
กำไรสุทธิเฉลี่ย |
829 |
34% |
*** นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ"ถือ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำเพียงแค่"ถือ" เนื่องจากประเมินว่าราคาซื้อขายปัจจุบันเต็มมูลค่าไปแล้ว ขณะที่ยอดขายในช่วงที่เหลือของปี ยังคงถูกกดดันจากตลาดคอนโดมิเนียมที่แข่งขันกันดุเดือดขึ้น ประกอบกับการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
กรุงศรี |
ถือ |
4.10 |
ดีบีเอส วิคเคอร์ส |
เต็มมูลค่า |
4.20 |
เคจีไอ |
ขาย |
4.50 |
ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี |
ถือ |
4.50 |
ทรีนีตี้ |
ถือ |
4.55 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
6.20 |
ราคาเฉลี่ย |
4.66 |
แม้ว่า LPN จะมีปัจจัยบวกรอหนุนอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ต้องยอมรับว่าเป็นปัจจัยที่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน สะท้อนจากการปรับเป้ายอดขายลง 30% นอกจากนี้ราคาหุ้น LPN ที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน ก็เกินกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำให้การเข้าลงทุนหุ้น LPN ช่วงนี้ อาจไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสมนักสำหรับนักลงทุน...
0 Response to "LPN เริ่มเห็นแววฟื้น...แต่ยังห่างไกลกับคำว่า"ปกติ" - efinanceThai"
Post a Comment