หลังคลายล็อกดาวน์ GFPT ได้รับอานิสงส์ราคาไก่ปรับตัวขึ้น ประกอบกับการส่งออกก็มีแนวโน้มดีขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดว่าช่วงครึ่งปีหลัง GFPT จะทำผลงานได้เด่นกว่าครึ่งปีแรก แต่ถ้าพูดถึงการเติบโตแบบ YoY อาจต้องรอนานถึง Q2/64 เลยทีเดียว เพราะจะได้ปัจจัยหนุนจากการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในช่วงต้นปีหน้า...แต่คำถามคือ เวลานี้นักลงทุนจะจับจังหวะเข้าลงทุนอย่างไร?...ต้องติดตาม
*** ราคาปิดบวกสวนตลาด
ราคาหุ้นบริษัท บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT วานนี้ (25 ส.ค.63) กระโดดขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันที่ราคา 13.80 บาท ก่อนปิดซื้อขายด้วยราคา 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 2.29% สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปิดลบ มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 305.14% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า
*** โบรกฯ มอง GFPT พ้นจุดต่ำสุดของปีแล้ว
GFPT นับเป็นหุ้นอีก 1 ตัว ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เช่นเดียวกับหุ้นอีกหลายๆตัว เห็นได้จากการรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 จำนวน 223 ล้านบาท ลดลง 34.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 31.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
โดย บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเซีย พลัส ระบุว่า GFPT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ต่ำกว่าคาด 7% โดยสาเหตุหลัก เกิดจากรายได้รวมในไตรมาสดังกล่าวลดลง 23.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากราคาไก่ลดลง จากมาตรการล็อกดาวน์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นไตรมาส 2/63 ลดลงมาอยู่ที่ 14.3% (ไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 14.7%) นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายยังเพิ่มขึ้น 0.9% จากไตรมาสก่อน
ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ผลประกอบการของ GFPT ในปีนี้ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังจากมีการคลายล็อกดาวน์มากขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ส่งผลให้การส่งออกมีโอกาสฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
*** ครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งแรก
บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินว่ากำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีหลังของ GFPT จะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก สาเหตุหลัก เกิดจากราคา By Product กลับมาฟื้นตัว เช่น ราคาโครงไก่เพิ่มขึ้นเป็น 14 บาท/กก. (ไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 9 บาท/กก.) นอกจากนี้ ตลาดส่งออกไก่กลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดจีน และญี่ปุ่น ขณะที่ยุโรปน่าจะฟื้นตัวช้าสุด เพราะยังมีปัญหา Oversupply
สอดคล้องกับ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ที่ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 3/63 ของ GFPT จะเติบโตจากไตรมาส 2/63 หลังการส่งออกเริ่มฟื้นตัว และราคาไก่ในประเทศปรับตัวขึ้น จากอุปทานในประเทศลดลง แต่อุปสงค์ดีขึ้น หลังร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมต่างๆ ทยอยกลับมาเปิดให้บริการ
เช่นเดียวกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่คาดว่ากำไรปกติของ GFPT ในช่วงไตรมาส 3/63 จะอยู่ที่ 300 - 320 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26 - 35% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามราคาไก่ที่ฟื้นตัวราว 14.5% จากไตรมาสก่อน หลังการคลายล็อกดาวน์ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศกลับสู่สภาวะใกล้ปกติ ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายเพิ่มขึ้น
ขณะที่ ต้นทุนการเลี้ยงไก่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้คาดว่า GFPT จะรักษาระดับกำไรขั้นต้นที่ 14% ขึ้นไปได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง GFPT ยังได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาท ช่วยหนุนอีกด้วย
*** กำไรปี 63 มีโอกาสหดตัว ก่อนโตอีกทีปี 64
แม้ว่านักวิเคราะห์หลายสำนักจะมองคล้ายกันว่า ช่วงครึ่งหลังของปี 63 ผลประกอบการของ GFPT จะเติบโตขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก แต่ประเมินว่ายังไม่สามารถชดเชยผลงานครึ่งปีแรกที่ทรุดตัวลงได้ ทำให้กำไรสุทธิปี 63 มีโอกาสลดลงจากปีก่อน และกลับมาเติบโตอีกทีปี 64
บล. |
กำไรสุทธิปี 63 (ลบ.) |
กำไรสุทธิปี 64 (ลบ.) |
ฟินันเซีย ไซรัส |
1,106 (-7.4%YoY) |
1,309 (+18%YoY) |
ทิสโก้ |
1,137 (-4.8%YoY) |
1,302 (+14.5%YoY) |
ดีบีเอส วิคเคอร์ส |
1,120 (-6.2%YoY) |
1,284 (+14.6%YoY) |
*** จับตา Q2/64 เริ่มโตแรง หลังติดตั้งเครื่องจักรใหม่
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า แนวโน้มกำไรสุทธิของ GFPT จะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้งในช่วงไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป จากกำลังการผลิตใหม่ที่ทยอยติดตั้งแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 1/64 โดยจะเป็นเครื่องจักรสายการผลิตอาหารปรุงสุก (Further) จำนวน 2 สายการผลิตที่ถูกไฟไหม้เมื่อปี 62
ขณะเดียวกัน ในช่วงไตรมาส 2/64 จะเป็นการติดตั้งสายการผลิตอีก 3 สาย ซึ่งเป็นการทดแทนเครื่องจักรเดิมที่ถูกใช้งานมานาน ทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นจาก 2,000 ตัน/เดือน เป็น 3,000 ตัน/เดือน หรือเพิ่มขึ้น 50% โดยจะทำให้ GFPT เริ่มเห็นการเติบโตของรายได้และกำไรดีขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป
ส่วน ในช่วงครึ่งหลังของปี 64 จะเติบโตโดดเด่นมาก หากราคาไก่ในประเทศยังไม่ต่ำกว่า 34 บาท/กก. และไม่มีการะบาดรอบใหม่ของโควิด-19 นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าตลาดส่งออกไก่ของไทยจะมีการเติบโตสูงในปี 64 เนื่องจากการระบาดโควิด-19 อย่างหนักในประเทศบราซิล ทำให้ตลาดเอเชียและยุโรปมีความต้องการความมั่นคงทางด้านอาหารมากขึ้น
สอดคล้องกับ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ที่ระบุว่า จากการเพิ่มเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการผลิต จะทำให้ GFPT สามารถเพิ่มกำลังการผลิตไก่แปรรูปเป็น 3.6 หมื่นตัน/ปี (เดิม 2.4 หมื่นตัน/ปี) หรือพิ่มขึ้น 50%
นอกจากนี้ ยังทำให้ GFPT เชือดไก่เพิ่มขึ้นเป็น 4.5 แสนตัว/วัน (เดิม 3 แสนตัว/วัน เป็นของ GFPT 1.5 แสนตัว/วัน และเป็นของ GFN 1.5 แสนตัว/วัน)
ทั้งนี้ การติดตั้งเครื่องจักรปรุงสุก 2 เครื่องใหม่จะแล้วเสร็จและ Test run ในช่วงปลายปี 63 และเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 1/64 หรืออย่างช้า ไตรมาส 2/64 ซึ่ง 2 เครื่องนี้จะมาทดแทนส่วนที่ถูกเพลิงไหม้ และอีก 3 เครื่องที่มาทดแทนตัวเก่าจะ Test run ช่วงไตรมาส 2/64 และเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปลายไตรมาส 3/64 เป็นต้นไป
*** โบรกฯ ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"
จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมั่นใจว่าผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของ GFPT จะฟื้นตัวจากครึ่งปีแรก และจะเติบโตโดดเด่นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/64 เป็นต้นไป หลังทยอยติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่จะช่วยให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม (บ.) |
ดีบีเอส วิคเคอร์ส |
ซื้อ |
14.40 |
ทิสโก้ |
ซื้อ |
14.60 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
15.60 |
ฟินันเซีย ไซรัส |
ซื้อ |
15.60 |
ราคาเฉลี่ย |
15.05 |
ต้องบอกว่าราคาหุ้น GFPT แกว่งตัวในกรอบแคบมาร่วม 2 เดือนแล้ว เนื่องจากยังขาดปัจจัยหนุนราคาหุ้น แต่หากประเมินปัจจัยบวกที่มีโอกาสดันราคาหุ้นพุ่งกระฉูด คงต้องรอนานถึงช่วงไตรมาส 2/64 จากการเพิ่มกำลังการผลิตที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าจะหนุนการเติบโตทั้งปีได้ ดังนั้นในระยะสั้นหุ้น GFPT อาจยังไม่น่าสนใจเท่าไรนัก
แต่ถ้านักลงทุนสามารถอดทนถือหุ้นระยะยาวได้ และมั่นใจว่าการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงดังกล่าวจะช่วยดันราคาหุ้น GFPT พุ่งได้จริง จังหวะนี้ก็อาจเป็นโอกาสเข้าเก็บหุ้นเช่นกัน เนื่องจากต้นทุนขณะนี้ยังไม่สูงมากนัก
0 Response to "GFPT รอได้ไหม? ..กำไรโตเเรงอีกที Q2/64 - efinanceThai"
Post a Comment