ถ้าให้พูดถึงหุ้นที่ร้อนแรงมากที่สุดในสถานการณ์นี้ก็คือ STA ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเพราะธุรกิจถุงมือยางได้รับผลบวกจากโควิด-19 นั่นเอง โดยในไตรมาสแรกยอดขายถุงมือยางโตถึง 29.2% แน่นอนว่าตลาดต้องหวังว่าไตรมาส 2/63 ยอดขายจะต้องเติบโตอย่างมาก แต่ถุงมือยางยังสามารถเติบโตไปได้อีกไกลจริงหรือ? เพราะนักวิเคราะห์เริ่มมองว่ากำไรปี 64 จะกลับมาหดตัว ขณะที่ตัวเลขส่งออกถุงมือยางเดือนพ.ค.ในหลายประเทศเริ่มชะลอตัวแล้วด้วย
*** ราคาหุ้นพุ่งรับตัวเลขผู้ป่วยในสหรัฐฯกระฉูด - บ.ลูกเข้าเทรด SET พรุ่งนี้
ราคาหุ้น บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA วันนี้ยังดีดได้ต่อเนื่องทำจุดสูงสุดของเช้าวันนี้ไปที่ 29.25 บาท ใกล้ระดับ All Time High(30บ.)อีกครั้ง ก่อนที่จะปิดตลาดรอบเช้าไปที่ 28.75 บาท เพิ่มขึ้นถึง 1.50 บาท หรือ +5.50% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น +199.69% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า
อย่างที่นักลงทุนทราบว่าผลประกอบการของ STA ในขณะนี้ขับเคลื่อนด้วยสถานการณ์ของโควิด-19 ดังนั้นจากข่าวล่าสุด(30มิ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ)ที่ ดร.แอนโธนี เฟาชี แกนนำทีมต่อสู้โควิด-19 และผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติ (NIAID)ของสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่าการระบาดในสหรัฐฯ อาจหนักถึงขั้นมีผู้ติดเชื้อวันละ 1 แสนราย และออกมายอมรับว่าสหรัฐฯไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ ยิ่งเป็นปัจจัยผลักดันราคาหุ้นของ STA ในวันนี้
นอกจากนี้ยังได้แรงบวกจากบริษัทลูก บมจ.ศรีตรังโกลฟส์(ประเทศไทย) หรือ STGT ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)ในวันพรุ่งนี้(2ก.ค.63)อีกด้วย
*** จากจุดต่ำสุด 9 บาท สู่ 30 บาท ใน 3 เดือน
หากนักลงทุนสนใจหุ้น STA ก่อนอื่นต้องรู้ด้วยว่าราคาหุ้นก่อนหน้านี้ไต่ขึ้นมาจาก 9 บาท เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยจุดต่ำสุดในช่วงวิกฤตโควิด-19(13มี.ค.63) ราคาหุ้น STA ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 9 บาท และไต่ระดับขึ้นไปทำจุดสูงสุด 30 บาท ไปเมื่อ(17มิ.ย.63) คิดเป็นเพิ่มขึ้น +233.33% ภายใน 3 เดือน
นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน STA ก็เป็นหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติ(NVDR)ให้ความสนใจมาก เพราะมีปริมาณการถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 111,621,392 ล้านหุ้น(13 มี.ค. 63) มาเป็น 181,134,084 ล้านหุ้น(17 มิ.ย. 63) คิดเป็นถือหุ้นเพิ่มขึ้นถึง +62.27%
*** แต่ที่ต้องระวังคือสัญญาณ การส่งออกถุงมือยางเริ่มแผ่วในบางประเทศ
สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังย่ำแย่ในหลายประเทศทำให้นักลงทุนให้ราคากับ STA ไว้สูงมาก แต่หากมองไปที่ตัวเลขการส่งออก "ถุงมือยาง" ของไทยไปยังตลาดสำคัญๆ อย่างเช่น จีน สหรัฐฯ ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาพบว่าเริ่มพลิกกลับมาหดตัวแล้ว และด้วยการที่ STA เป็นผู้นำตลาดในการส่งออกของไทยย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน
จากรายงานสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ ระบุตัวเลขการส่งออก "ถุงมือยาง" ตามประเทศและช่วงเวลา ไว้ดังนี้
ประเทศ |
มูลค่า : ล้านบาท (YoY) |
ก.พ.63 |
มี.ค.63 |
เม.ย.63 |
พ.ค.63 |
จีน |
287(+133%) |
302(+5.38%) |
246(-18.76%) |
231(-5.91%) |
สหรัฐฯ |
1,431(-0.96%) |
1,390(-2.82%) |
1,724(+23.99%) |
1,604(-6.97%) |
ญี่ปุ่น |
139(-11.66%) |
156(+12.07%) |
248(+58.78%) |
277(+11.77%) |
อินเดีย |
60(-41.17%) |
59(-1.5%) |
93(+57.13%) |
86.9(-7.25%) |
เกาหลี |
60(-6.9%) |
53(-12.67%) |
74(+40.30%) |
68.5(-7.85%) |
บราซิล |
93(+75.23%) |
87(+180.63%) |
106(+75.47%) |
107.5(+65.06%) |
สเปน |
49(+49.52%) |
32.6(+23.95%) |
54.8(+42.78%) |
76.5(+186.20%) |
สหราชอาณาจักร |
26(-64.51%) |
45(+59.20%) |
42(+46.71%) |
97(+179.87%) |
แต่อย่างไรก็ดีเมื่อรวมยอดส่งออกถุงมือยางทุกประเทศในเดือนพ.ค.63 ยังเติบโตได้ที่ 32.95% YoY มาเป็น 4,291.2 ล้านบาท และ +5.6% MoM
*** นักวิเคราะห์มองกำไรปี 64 ส่อหดตัว 2.15%
บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุว่า STA เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ทิศทางกำไรในช่วง 2/63 มีโอกาสขยายตัวได้ต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ โดยแรงหนุนหลักมาจากธุรกิจถุงมือยางที่ขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง (ไตรมาส 1/63 มีกำลังการผลิตติดตั้งที่ 3.26 หมื่นล้านชิ้น/ปี) และ STA โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 63 STA ยังถือหุ้น STGT อยู่กว่า 73.2% (Consolidate) หลังการ IPO STGT ในวันที่ 2 ก.ค. นี้ STA ยังถือ STGT อยู่กว่า 50.6% และมีถือทางอ้อมผ่าน RBL อีก 5.4% รวมเป็น 56%
ธุรกิจถุงมือยางในยุค New Normal ก็มีอุปสงค์การใช้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและเริ่มมีลูกค้ากลุ่ม Non-Medical มากขึ้นด้วย นอกจากนั้นค่าเงินบาทโดยเฉลี่ยในปีนี้ยังมีแนวโน้มอ่อนค่ากว่าปีก่อน
แต่สำหรับประมาณการกำไรสุทธิปี 63 - 64 ตลาดประเมินไว้ที่ระดับ 2.32 พันล้านบาท จากที่ขาดทุนในปีก่อน และทรงตัว 2.27 พันล้านบาท หรือ -2.15%YoY ในปี 64
แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเหมาะสม 28 บาท
*** ผู้บริหารขายหุ้น"ต้องรู้ไว้" แต่"ไม่มีนัย" เพราะขายเพียง 1 ล้านหุ้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เปิดเผยในแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร ว่า ในวันที่ 24 มิถุนายน 2563 นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 8 ของ STA ได้ขายหุ้น STA จำนวน 1 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 25.88 บาท จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่ 27,656,747 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.80%
แม้ที่ผ่านมา นายวีรสิทธิ์ จะออกมายืนยันว่าผลประกอบการจะเติบโตแรง โดยมองปริมาณการขายถุงมือยางไตรมาส 2/63 คาดว่าจะเติบโต 15 - 20% จากปกติจะเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 10 - 12%
“ไตรมาส 2 ถ้ายังรันผลิตได้ วอลุ่มก็โตต่อ ตอนนี้เราใช้อัตราการเดินเครื่อง 85 - 90% แต่ไตรมาส 2 จะเพิ่มขึ้นเป็น 94 - 95% ทำให้เราเชื่อว่า สุดท้ายแล้วภาพรวมผลงานในปีนี้จะดีกว่าปีก่อน รวมทั้งไตรมาส 2 ก็จะดีกว่าไตรมาส 1 ด้วย โดยปีนี้เราตั้งเป้าปริมาณการขายถุงมือยาง 28,000 - 29,000 ล้านชิ้น จากปีก่อน 19,000 ล้านชิ้น ประกอบกับ ยอดคำสั่งซื้อลากยาวไปถึงไตรมาส 3 ปีหน้าแล้ว ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้ถุงมือยางที่เพิ่มขึ้น” นายวีรสิทธ์ กล่าว
สำหรับปริมาณการขายยางธรรมชาติปีนี้คาด 1.2 - 1.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ 1.1 ล้านตัน โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลดีทางด้านความต้องการใช้ถุงมือยาง แต่การขายยางธรรมชาติได้รับผลกระทบ เนื่องจากยางธรรมชาติส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ภาคอุตสาหกรรมยางรถยนต์ ซึ่งเมื่อธุรกิจรถยนต์ได้รับผลกระทบก็ส่งต่อมายังยางรถยนต์ด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับลดลงงบลงทุนปีนี้เหลือ 1,200 ล้านบาท จากเดิม 1,600 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทต้องการติดตามสถานการณ์ความต้องการใช้ยางพาราของตลาดในปีหน้า ส่วนธุรกิจถุงมือยางยังเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง
*** สำรวจราคาเหมาะสม ให้ไว้ต่ำมาก
ทั้งนี้จากการสำรวจราคาเหมาะสมของนักวิเคระาห์พบว่าให้ไว้ต่ำมาก มีเพียงบล.ยูโอบี เคย์เฮียน ที่ให้ราคาไว้สูงถึง 39.90 บาท เพราะเชื่อว่ากำไรจะเป็นขาขึ้นใน 2 ปีข้างหน้า เพราะโควิด-19
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม(บ.) |
โนมูระ พัฒนสิน |
ขาย |
14.70 |
ฟิลลิป |
ซื้อเก็งกำไร |
19 |
เอเซีย พลัส |
ซื้อ |
20 |
เอเชีย เวลท์ |
ซื้อ |
20.60 |
เคทีบี |
ซื้อ |
27 |
ยูโอบีเคย์เฮียน |
ซื้อ |
39.90 |
จากตัวเลขการส่งออกถุงมือยางในเดือน พ.ค.63 สะท้อนว่าลูกค้าหลักของ STA อย่างจีน สหรัฐฯ เริ่มชะลอการนำเข้าไปแล้วตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา แม้ตลาดสหรัฐฯจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมากและทั้งเดือนพ.ค.จะเติบโตได้ดีก็ตาม ในขณะนี้ก็ตามซึ่งในเดือนมิ.ย.เป็นช่วงที่หลายประเทศเริ่มกลับมาระบาดรอบที่สอง หากตัวเลขการส่งออกยังไม่กลับมาเติบโตอีกอาจสะท้อนได้ว่าการเติบโตของถุงมือยางอาจใกล้ถึงจุดพีคแล้วก็ได้ !
0 Response to "STA จุดพีคของถุงมือยาง อาจอยู่ไม่ไกลแล้ว ? - efinanceThai"
Post a Comment