
ศูนย์วิจัยออมสิน รายงานภาวะเศรษฐกิจฐานราก เดือนเม.ย.-พ.ค.63 ว่า ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร: เดือนเมษายน 2563 หดตัวร้อยละ -13.18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับตัวลดลงร้อยละ -22.13 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีที่ปรับตัวลดลงคือ หมวดพืชผลสำคัญ และหมวดประมง ส่วนหมวดปศุสัตว์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดัชนีราคาสินค้าเกษตร: เดือนเมษายน 2563 ขยายตัวร้อยละ 3.49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับตัวลดลงร้อยละ -5.20 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยดัชนีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นคือ หมวดพืชผลสำคัญ ส่วนหมวดปศุสัตว์ และหมวดประมงปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดัชนีรายได้เกษตรกร: เดือนเมษายน 2563 ขยายตัวร้อยละ 10.15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับตัวลดลงร้อยละ -26.14 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยการขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เกิดจากระดับราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นในสัดส่วนที่มากกว่าการลดลงของปริมาณผลผลิต โดยราคาสินค้าหลักที่เพิ่มขึ้นคือสินค้าข้าว ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน
อัตราเงินเฟ้อของผู้มีรายได้น้อย: เดือนพฤษภาคม 2563 ลดลงร้อยละ -2.66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.02 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ตามการลดลงของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งค่าไฟฟ้าและน้ำประปาจากมาตรการของภาครัฐที่ช่วยเหลือด้านค่าครองชีพในช่วง COVID-19 ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นเกือบทุกหมวด ยกเว้นผักสดที่ลดลงจากฐานปีที่แล้วสูง ประกอบกับการบริโภคชะลอตัวลงทั้งภาคการท่องเที่ยวและการเลื่อนเปิดภาคการศึกษาออกไป
ปริมาณการขายรถจักรยานยนต์: เดือนเมษายน 2563 ปริมาณการขายรถจักรยานยนต์ อยู่ที่ 78,873 คัน ลดลงร้อยละ -34.49 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า พบว่าปริมาณการขายรถจักรยานยนต์ ปรับตัวลดลงร้อยละ -46.25
ภาวะการจ้างงาน: เดือนมีนาคม 2563 มีจำนวนการจ้างงานรวม 37.33 ล้านคน ปรับลดลงร้อยละ -1.19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นการจ้างงานภาคเกษตรกรรมร้อยละ 30.22 (11.28 ล้านคน) และนอกภาคเกษตรกรรมร้อยละ 69.78 (26.05 ล้านคน) โดยการจ้างงานภาคเกษตรกรรมปรับตัวลดลง ส่วนการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมขยายตัวเล็กน้อย เมื่อจำแนกจำนวนผู้มีงานทำ ตามระดับการศึกษา พบว่า ผู้มีงานทำที่ไม่มีการศึกษา หดตัวร้อยละ -11.76 ผู้มีงานทำที่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับอุดมศึกษา ขยายตัวร้อยละ 3.67 ส่วนผู้มีงานทำที่มีการศึกษาระดับอุดมศึกษา หดตัวร้อยละ -17.79 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ภาวะผู้ว่างงาน: เดือนมีนาคม 2563 มีจำนวนผู้ว่างงาน 3.92 แสนคน ขยายตัวร้อยละ 13.29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนร้อยละ 52.35 และเคยทำงานมาก่อนร้อยละ 47.65 เมื่อจำแนกจำนวนผู้ว่างงาน ตามระดับการศึกษา พบว่า ผู้ว่างงานที่ไม่มีการศึกษา หดตัวร้อยละ -45.31 ส่วนผู้ว่างงานที่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับอุดมศึกษา ขยายตัวร้อยละ 28.23 และผู้ว่างงานที่มีการศึกษาระดับอุดมศึกษา หดตัวร้อยละ -11.54 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ค่าจ้างแรงงาน: เดือนมีนาคม 2563 ค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยภาคเกษตรกรรมอยู่ที่ 6,013.47 บาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยนอกภาคเกษตรกรรมอยู่ที่ 15,609.45 บาทต่อเดือน ปรับตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ความเคลื่อนไหวการแก้ไขหนี้นอกระบบ
- ธนาคารออมสิน อนุมัติสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน
ระยะที่ 1 วงเงิน 5,000 ล้านบาท จำนวน 119,592 ราย เป็นเงิน 4,988.76 ล้านบาท (สิ้นสุด มี.ค. 2561)
ระยะที่ 2 วงเงิน 10,000 ล้านบาท จำนวน 230,055 ราย เป็นเงิน 10,000.00 ล้านบาท (สิ้นสุด มี.ค. 2563)
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อนุมัติสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน
ระยะที่ 1 วงเงิน 5,000 ล้านบาท จำนวน 105,721 ราย เป็นเงิน 5,000 ล้านบาท (สิ้นสุด มี.ค. 2561)
ระยะที่ 2 วงเงิน 10,000 ล้านบาท จำนวน 169,016 ราย เป็นเงิน 7,377.40 ล้านบาท (สิ้นสุด มี.ค. 2563)
- สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (นาโนไฟแนนซ์) มีการอนุมัติสินเชื่อสะสม 906,207 บัญชี เป็นเงิน 16,968 ล้านบาท
- สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (พิโกไฟแนนซ์) มีการอนุมัติสินเชื่อสะสม 248,423 บัญชี เป็นเงิน 5,589.58 ล้านบาท มีสินเชื่อคงค้างชําระเกิน 3 เดือน (NPL) 12,478 บัญชี คิดเป็นเงิน 342.80 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.45 ของยอดสินเชื่อคงค้างรวม (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2563)
สรุปภาพรวมเดือนเม.ย.-พ.ค.63 ได้ว่า ภาวะเศรษฐกิจฐานราก ที่แม้จะมีผลเชิงบวกต่อภาคการเกษตรในด้านราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จนทำให้ระดับรายได้ของเกษตรกรในภาพรวมปรับตัวสูงขึ้น แต่ผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ที่อยู่ในภาคการผลิตและบริการยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ทำให้อุปสงค์ของโลกและของไทยเกิดการชะลอตัวในระดับสูง แต่ทั้งนี้ การผ่อนคลายมาตรการระยะ 1-4 ที่อนุญาตให้หลายธุรกิจกลับมาดำเนินการได้นั้น ได้ช่วยลดความตึงเครียดของภาคธุรกิจและแรงงาน อย่างไรก็ตามแนวโน้มการระบาดรอบ 2 ที่เริ่มมีขึ้นในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อาจทำให้มีการระบาดรอบ 2 เกิดขึ้นในไทยได้เช่นเดียวกัน ประเด็นดังกล่าวจึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันเศรษฐกิจในระยะถัดไป
July 04, 2020 at 10:20AM
https://ift.tt/2BZg9T3
ศูนย์วิจัยออมสิน รายงานภาวะเศรษฐกิจฐานราก เม.ย.-พ.ค.63 - ประชาชาติธุรกิจ
https://ift.tt/3gXnEKd
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ศูนย์วิจัยออมสิน รายงานภาวะเศรษฐกิจฐานราก เม.ย.-พ.ค.63 - ประชาชาติธุรกิจ"
Post a Comment