ราคาหุ้น TASCO วันนี้ (30 มิ.ย.63) เปิดบวกได้ตามดัชนี แต่ความพิเศษก็คือวันนี้ดีดขึ้นไปทุบสถิตินิวไฮรอบ 3 ปี 2 เดือนแล้ว(นับตั้งแต่เม.ย.60) ซึ่งปัจจัยบวกที่หนุนราคาหุ้น TASCO ในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นราคายางมะตอยที่ฟื้นขึ้นมาเท่าตัวจากต้นปีที่ผ่านมา ตามการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 ของรัฐบาล และการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลนั่นเอง
โดยราคา TASCO ขึ้นไปทำจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 26 บาท(นิวไฮรอบ 3 ปี 2 เดือน) ก่อนปิดเที่ยงไปด้วยราคา 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท หรือ +1.41% ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น +132.76% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้านี้
***TASCO พ้นจุดต่ำสุดแล้ว ไทยเร่งลงทุน-ต่างประเทศคลายล็อกดาวน์
ช่วงไตรมาส 1/63 ถือว่าเป็นช่วงที่ TASCO ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากงบไตรมาส 1/63 รายงานออกมาขาดทุนสุทธิไปถึง 784 ล้านบาท ลดลง -209% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 718 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากงบประมาณปี 63 ล่าช้า ส่งผลให้ยอดขายยางมะตอยในประเทศลดลงตามไปด้วย
ขณะที่ยอดขายจากต่างประเทศซึ่งเป็นสัดส่วนหลักกว่า 75% ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก เพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์(Lockdown)โดยเฉพาะในจีนและมาเลเซีย จนนายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TASCO ต้องออกมายอมลดเป้าปริมาณการขายยางมะตอยปี 63 ลงกว่า 4 แสนตัน เหลือ 1.8 - 1.9 ล้านตัน/ปี (เดิม 2.2 ล้านตัน/ปี)
แต่ข่าวดีก็คือ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)หยวนต้า มองว่าช่วงวิกฤติของ TASCO ได้จบลงไปแล้ว หลังตลาดต่างประเทศเริ่มเข้าสู่ช่วงการทำงาน(Working Season) (ยกเว้นอินโดนีเซียที่จะมีช่วงพีคในช่วงครึ่งปีหลัง) รวมทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย นอกจากนี้ในหลายประเทศเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้ว ส่งผลให้คำสั่งซื้อยางมะตอยช่วงไตรมาส 2/63 ปรับตัวดีขึ้น หลังไตรมาส 1/63 ชะลอตัวอย่างหนัก
ส่วนตลาดในประเทศ ได้แรงหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ล่าช้าอยู่นาน ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อยางมะตอยจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่จะเริ่มทยอยกลับมาก่อสร้างกันอีกครั้ง โดยคาดว่าเดือน พ.ค. - มิ.ย. 63 จะเป็นช่วงที่ TASCO อาจทำรายได้สูงสุดใหม่ต่อเดือนอีกด้วย
*** ราคายางมะตอยพุ่งเท่าตัวจากต้นปี หนุน Q2/63 พลิกกำไร
บล.หยวนต้า ระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันโรงกลั่นยังลดกำลังการผลิตยางมะตอยลงอีกด้วย ส่งผลให้ราคายางมะตอยฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับ 315 ดอลลาร์/ตัน (เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ราคาประมาณ 200 ดอลลาร์/ตัน และ 170 ดอลลาร์/ตัน เมื่อช่วงต้นปี 63) ส่วนราคาน้ำมันดิบที่เริ่มฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 2/63 อาจทำให้บริษัทมีการบันทึกสัญญาป้องกันความเสี่ยงสินค้าบางส่วน แต่ก็ได้ชดเชยจากกำไรจากการสำรองน้ำมัน ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรขั้นต้นให้พลิกกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงไตรมาส 2/63 นอกจากนี้ TASCO จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจาก Insurance claim อีกราว 20 – 40 ล้านบาท
ดังนั้นคาดว่าช่วงไตรมาส 2/63 TASCO จะกลับมามีกำไรปกติราว 600 – 800 ล้านบาท จากที่ขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 1/63
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า ไตรมาส 2/63 TASCO มีโอกาสกลับมามีกำไรสุทธิถึง 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากไตรมาสนี้จะมีการบวกกลับการขาดทุนสต็อกน้ำมันเกือบทั้งหมด 1.9 - 2 พันล้านบาท จากที่ตั้งสำรองในไตรมาส 1/63 จำนวน 2.1 พันล้านบาท จากราคายางมะตอยปรับตัวขึ้นจากจุดตั้งสำรองที่ 170 ดอลลาร์/ตัน ขึ้นมาเป็น 315 ดอลลาร์/ตัน เนื่องจากยางมะตอยขาดแคลนหนักในปัจจุบัน แต่การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบจะทำให้มีบันทึกสัญญาป้องกันความเสี่ยงประมาณ 700 - 800 ล้านบาท ซึ่งหากหักทั้งสองรายการนี้ TASCO จะกลับมามีกำไรปกติจำนวน 300 ล้านบาท
*** ครึ่งหลังยังไปต่อ รับรัฐฯเร่งเบิกจ่ายงบปี 63 - ราคายางมะตอยจ่อพุ่งได้อีก 20%
บล.หยวนต้า ระบุว่า ช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงที่ผลประกอบการของ TASCO ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยได้แรงหนุนตั้งแต่ไตรมาส 3/63 เป็นต้นไป จากการที่ภาคธุรกิจจะกลับมาดำเนิงานเป็นปกติเต็มไตรมาสโดยเฉพาะประเทศไทย จีนและมาเลเซีย หลังต้องหยุดชะงักจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในช่วงไตรมาส 2/63 โดยไตรมาส 3/63 ยังเป็นไตรมาสสุดท้ายสำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 ของไทย ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันผลประกอบการของ TASCO ให้ดีต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 63 อีกด้วย
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่าในขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันเกิดภาวะ ซัพพลายยางมะตอยขาดแคลนหนัก ทั้งตลาดในประเทศ และ ต่างประเทศ เพราะโรงกลั่นทั่วไปยังเดินเครื่องไม่เต็มที่ ทำให้มียางมะตอยออกมาน้อย ส่วนความต้องการทั้งในและต่างประเทศที่ยังสูง ดังนั้นผู้บริหารจึงประเมินว่าราคายางมะตอยมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีก 20% จากราคาปัจจุบันที่ 320 ดอลลาร์/ตัน ทำให้ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเด่นต่อเนื่อง
นอกจากนี้ TASCO ยังได้ต่อสัญญาเช่า Floating storage จากสิ้นสุดเดือน ส.ค. 2563 ออกไปถึง ก.พ. 2564 ซึ่งเก็บน้ำมันดิบได้ถึง 1.8 ล้านบาร์เรล รวมกับถังเก็บน้ำมันดิบ 8 ถังปัจจุบัน 2.3 ล้านบาร์เรล จะทำให้มี TASCO มีน้ำมันดิบเข้ามากลั่นถึงสิ้นปีลดปัญหาการขาดแคลนน้ำมันดิบที่หลายแห่งกำลังประสบอยู่
*** นักวิเคราะห์ชอบการเติบโต ... แต่ไม่ชอบราคาหุ้นตอนนี้
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/63 ที่พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ รวมถึงผลงานครึ่งปีหลังสดใส และราคายางมะตอยอาจปรับเพิ่มขึ้นได้อีกถึง 20%
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม(บ.) |
หยวนต้า |
เก็งกำไร |
21.10 |
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง |
ซื้อ |
24.90 |
กสิกรไทย |
ซื้อ |
25.40 |
ดีบีเอส วิคเคอร์ส |
ซื้อ |
28 |
ฟินันเซีย ไซรัส |
ซื้อ |
29 |
ราคาเฉลี่ย |
25.68 |
แม้ว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะให้คำแนะนำ "ซื้อ" เพราะแนวโน้มการเติบโตที่ดีมาก แต่ราคาหุ้น TASCO ที่ทำนิวไฮรอบ 3 ปีไปแล้ว ก็ถือว่ามีอัพไซด์จากราคาเฉลี่ยเหลือน้อยเต็มที โดยราคายังปรับตัวขึ้นมาจากระดับต่ำสุดของปี เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 63 มากกว่า 74.5% อีกด้วย ดังนั้นการที่นักลงทุนจะเข้าลงทุนในหุ้น TASCO ช่วงนี้อาจไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก เพราะราคาหุ้นอาจจะตอบสนองปัจจัยบวกไปเรียบร้อยแล้ว นอกเสียจากว่าราคายางมะตอยสามารถปรับขึ้นได้อีก 20% ตามที่ผู้บริหารคาดไว้จริงๆ!
0 Response to "TASCO นิวไฮรอบ 3 ปี! ราคานี้มีดีอะไร? - efinanceThai"
Post a Comment